โยม : กราบนมัสการหลวงตาค่ะ
หนูรบกวนถามหลวงตาว่า "สุญญตา" มีความรู้อยู่ด้วยมั้ยคะ?
พอดีคุยกับคุณแม่เรื่องนี้ คุณแม่บอกว่าสุญญตา คือ ความว่างไม่มีอะไรเลย แต่หนูว่ามี "ความรู้" เพราะหนูฟังไฟล์สุญญตาอีกครั้งเหมือนน้องในคลิปเค้าบอกว่ารู้ออกมาจากสุญญตา
หนูเลยว่ามาถามหลวงตาดีกว่าค่ะขอความเมตตาหลวงตาชี้แนะด้วยค่ะ
กราบ กราบ กราบ
หลวงตา : สุญญตา คือ "ธาตุรู้" ที่ไม่ปรากฏ ส่วนความว่างที่ไม่รู้เป็น "ธาตุอากาศ"
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเพียงสสาร... พลังงาน... ความว่าง... หรือช่องว่างที่เป็นธาตุอากาศ
แต่ไม่รู้จัก "ธาตุรู้"
"ธาตุรู้" จะรวมกับธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุอากาศ (ช่องว่าง) เกิดเป็นขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
"ธาตุรู้" เป็นวิสังขาร... ไม่ปรากฏจึงไม่เกิดดับ
แต่ "ขันธ์ห้า" เป็นสังขาร... จึงเกิดดับ
"วิญญาณขันธ์" ในขันธ์ห้าจะทำหน้าที่รู้รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ ธรรมารมณ์ทางตา... หู... จมูก... ลิ้น กาย... ใจ... เมื่อเกิดผัสสะในปัจจุบันขณะโดยทำงานร่วมกับ เวทนา สัญญา สังขาร อีกสามขันธ์ซึ่งเรียกว่า... "เจตสิก"
ซึ่ง "เจตสิก" จะเกิดพร้อม... วิญญาณขันธ์ และดับพร้อมวิญญาณขันธ์
ซึ่งวิญญาณขันธ์จะทำหน้าที่ตามลำพังโดยไม่มีเจตสิกไม่ได้ และ "วิญญาณขันธ์" กับ "เจตสิก" จะเกิดดับในธาตุรู้ หรือ ใจดั้งเดิมแท้ หรือ จิตบริสุทธิ์ซึ่งไม่เกิดดับเพราะไม่มีอะไรปรากฏ
"ธาตุรู้" หรือ "ใจบริสุทธิ์" จึงได้แต่รู้สังขารที่เกิดดับในใจในปัจจุบันขณะ ส่วนธาตุรู้ หรือ ใจจะไม่ปรากฏ
ดังนั้น "ธาตุรู้" หรือ "ใจบริสุทธิ์" จึงไม่สามารถคิดปรุงแต่งยึดถือเป็นตัวเรา หรือ ของเราอันเป็นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเป็น "สมุทัย" คือ เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ได้
*****ถ้าได้แต่รู้สังขารในใจ โดยไม่ปรากฏใจ หรือ ธาตุรู้ ก็จะไม่มีผู้ทุกข์
หรือ ความทุกข์ของสังขาร ซึ่งเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตามีอยู่ แต่ผู้ทุกข์ไม่มี
เรียกว่า "นิพพาน"
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
22 มีนาคม 2564
~~~~~~~~~~~~~~~