โยม 5 : หลวงตาบอกว่า ถ้าเราไม่เห็น "จิตตสังขาร"
เราก็จะไปเป็นความว่าง ไปอยู่กับอารมณ์ ถูกมั้ยเจ้าคะ?
แต่ถ้าเราเห็นตัวเราที่พูดที่บ่น เห็นมันแต่ไม่ไปเป็นมัน
ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน มันก็จะเกิดซ้อน ๆ กันอยู่ตลอดเวลา แต่เราไม่ต้องไปหา "ผู้รู้ตัวจริง" แค่รู้ว่ามันเป็น "ผู้รู้ตัวปลอม" ที่มันพูดบ่นทุกครั้งเวลาเราเห็นอะไร แล้วก็ บ่น ๆ ๆ ก็ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน
หลวงตา : ผู้ที่เห็นตอนมันพูด บ่น บ่น ๆ แล้วไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน ๆ ไอ้เนี่ยคือ "ตัวเรา"! โยมเห็นมั้ยเนี่ย?
โยม 5 : เรามีตัวที่ไปกระทำกับมันอีกใช่มั้ยเจ้าคะ?
หลวงตา : ไม่ใช่!
ไอ้ที่ว่าเห็นมันพูดบ่น บ่น ๆ มันเป็นตัวปลอมทุกตัว มันพูด บ่น บ่น ๆ ไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน ไม่ต้องไปอะไรกับมัน
(เรา)ไม่ต้องไปอะไรกับมัน!
(เรา)ไม่ต้องไปอะไรกับมัน!
แต่ไอ้ที่ไม่ไปอะไรกับมัน คือ "เรา" นะ!!
ไอ้ที่จะต้องถูกปล่อยวาง คือ "ตัวเรา" ที่ไม่ไปอะไรกับมัน
แต่นี่มันกลับด้าน คือ... มันบ่น เราก็เห็นตัวบ่นทุกตัว (เรา)ไม่ต้องไปอะไรกับมัน เราไม่ต้องไปอะไรกับมัน อันนี้มันผิดตัวนะ ถึงบอกว่ามันไม่ถูก มันผิดตัว!
อ้าว... ถ้าอย่างนั้นเข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว มันพูดทุกตัว ทุกปัจจุบันขณะมันพูดทุกตัว เราไม่ต้องไปอะไรกับมัน มันเกิดอะไรขึ้น (เรา) ก็เห็นมันบ่นทุกตัว (เรา) ก็ไม่ต้องไปอะไรกับมัน
ไอ้ที่ (เรา) ไม่ต้องไปอะไรกับมัน นี่แหละคือตัว "อวิชชาตัวใหญ่" เลย!!! ตอนนี้คือไอ้ตัวนี้กลายเป็นเราเลย!!
มันต้องเห็น "ตัวเรา" แล้วปล่อยวางตัวเรา ที่ไม่ไปอะไรกับมัน
โยม 5 : ก็เห็นตัวเราที่มันพูดบ่น
หลวงตา : เห็นตัวเราที่พูดบ่นน่ะก็ใช่ แต่เมื่อเราเห็นตัวเราพูดบ่น เราก็ไม่ต้องไปอะไรกับมันกับตัวเราที่พูดบ่น แต่ไอ้ตัวเราที่ไม่ไปอะไรกับตัวเราที่พูดบ่นน่ะ ตัวนั้นน่ะเป็นตัวเรา!!!
โยม 5 : ก็ต้องปล่อยวาง "ตัวที่ไปเห็น"
หลวงตา : ใช่ ๆ แล้วยังไง?
โยม 5 : ถ้าเราเห็นตัวที่เราพูดบ่น เราเห็นมันแล้วเราก็ปล่อยวางตัวนี้ไปไม่ต้องไป...
หลวงตา : ปล่อยวางตัวไหน?
โยม 5 : ตัวที่ "เห็น" ว่าเราพูดบ่น
คือไม่ต้องไปทำอะไรกับมัน ที่หลวงตาพูดว่าถ้าเราไม่เห็นมัน เราจะติดไปเป็นอารมณ์ ไปเป็นตัวมัน ไปจับอารมณ์เข้า จะไปจับความว่างจับอะไรใช่ไหมคะ แต่ถ้าเราเห็นเราตัวที่เป็น "จิตตสังขาร" ที่มันพูดมันบ่นอะไรอย่างนี้ก็แค่เห็น
หลวงตา : นี่สิ! เดี๋ยว !!! เห็น "ตัวเราที่พูดบ่น" (ก็แค่) เห็นมัน... เห็นมั้ย?
ก็แค่... เห็นมัน แต่ไม่ใช่!!
ไม่เห็น "ตัวเราที่ (แค่) เห็นมันนะ" !!
โยม 5 : ก็เห็นตัวเราที่มันกำลังพูดบ่น
หลวงตา : ก็เห็นตัวเราที่กำลังพูดบ่น แล้วไม่ไปอะไรกับมันแต่ใครล่ะ เป็นคนเห็นว่าตัวเราพูดบ่นน่ะ ใคร?
แล้วไม่ต้องไปอะไรกับมัน ใครล่ะที่ไม่อะไรกับตัวเราที่พูดบ่นน่ะใคร?
โยม 5 : "ตัวเรา" ก็ต้องปล่อยวางตัวนี้ใช่มั้ยเจ้าคะ?
หลวงตา : ตัวไหน?
โยม 5 : ตัวเราที่ "ไปเห็น" มัน
หลวงตา : เห็นอะไร?
โยม 5 : เห็นมันพูดบ่น
หลวงตา : รู้หรือยังว่าผิด! ผิดตัวเห็นมั้ยเนี่ย?
พบผู้รู้ฆ่าผู้รู้ หรือ พบผู้รู้ข้ามผู้รู้
เราจะข้ามทะเลทุกข์ทะเลหลง ข้ามตรงไหน?
ก็ข้ามตรงผู้รู้นี่ พบผู้รู้ข้ามผู้รู้
"ผู้รู้" รู้อะไรล่ะ? ก็รู้ว่าเราบ่น แต่ไอ้ตัวบ่น มันยังเป็นตัวรอง แต่ตัวที่จะนิพพานมันคือ *** "ตัวที่ไปรู้ไอ้ตัวบ่น" ***เพราะว่าเขาไม่ได้บอกว่าข้าม "ตัวบ่น"
พบผู้รู้ข้ามผู้รู้ ฆ่าผู้รู้ ก็ใครล่ะเป็นคนมารู้ไอ้ตัวบ่น? ก็ "เรา" น่ะสิ เป็นคนรู้ไอ้ตัวบ่น
โยมก็จะไปปล่อยแต่ไอ้ตัวบ่น ก็ไม่ไปอะไรกับมัน "เรา" ไม่อะไรกับมัน "เรา" นี่คือตัวร้ายเลย
ที่ว่า “เรา” ไม่ไปอะไรกับตัวบ่น
"เรา" นี่คือตัว "ผู้รู้" !!! ตัวร้ายเลย!!
ถ้าเข้าใจตรงนี้ มันก็ไม่ต้องเลี่ยงไปเลี่ยงมา แบบนี้ก็ พบผู้รู้ฆ่าผู้รู้ พบผู้รู้ข้ามผู้รู้ "นิพพาน" ข้ามตรงนี้
ข้ามตรงผู้รู้ ***แต่ไม่ใช่ไปข้าม "สิ่งที่ถูกรู้"
ตัวบ่นเป็นสิ่งที่ถูกรู้ ... ข้ามตรงผู้รู้
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจาก “สนทนาธรรมกับกลุ่มศิษย์”
ณ พุทธธรรมสถานปัญจคีรี
6 ตุลาคม 2562
~~~~~~~~~~~~~~~