“ปัจจัตตัง” นะ รู้ได้ที่ใจ รู้ได้แก่ใจ
เจ้าตัวย่อมรู้เอง เป็น “ปัจจัตตัง”
อนุโมทนาด้วย … สาธุ
อายุ 70 กว่านะ เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากกระจายไปทั่วตัวแล้วด้วย มาจนถึงเข้าใจธรรม จนถึง “จิตอวิชชา” ดับ ที่มันวูบหายไป
“จิตอวิชชา” จิตที่มันมีอวิชชาผสมมันดับ
เหลือแต่ความรู้แจ้ง เป็นปัญญาวิมุตติ
รู้แก่ใจ เป็นปัจจัตตัง … สาธุ
เพราะงั้นเป็นกำลังใจให้แก่ทุกท่านเนี่ย นี่โยมหมอเนี่ย ป่วยด้วย อายุมากด้วย
เป็นมะเร็งลามไปทั่วแล้วอายุตั้ง 70 ไม่ยอมแพ้ … "ใจ"น่ะ ...
เอาชนะความทุกข์ยากลำบากในใจตนได้ ทั้งที่ทุกข์ยากลำบากมามาก แสนสาหัส ที่สุดก็ผ่านพ้นมันไปได้หมดสิ้น
นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดี แก่พวกท่าน ที่ไม่ได้เจ็บไม่ได้ป่วยไม่ได้ไข้อะไร ไม่ได้ป่วยกาย แต่ป่วยใจ
คุณหมอนี่ป่วยทั้งกายป่วยทั้งใจ ทุกข์มาก เมื่อก่อนนี้ อายุก็มาก มะเร็งก็รุกเร้า ใจก็เป็นทุกข์มาก แต่ก็ผ่านพ้นมันได้หมดสิ้น
ความทุกข์ทั้งกายทุกข์ทั้งใจ เข้าไม่ถึง "ความสิ้นยึดถือ"
อันนี้ประเสริฐสุดแล้ว
"นิจฉาโต ปรินิพพุโต"
ดับความอยาก ความปรารถนา ความดิ้นรนกระเสือกกระสน
เสียสนิทไม่มีเหลือ เป็น "นิจฉาโต ปรินิพพุโต" ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือ
"นิพพานัง ปรมังสุญญัง นิพพานัง ปรมังสุขัง" อย่างเป็นอมตะตลอดกาล
ไม่มีตัวตนที่จะออกจากร่างไปไหน ไม่มีผู้จะไป และไม่มีผู้จะมาอีก
ทุกอย่าง … รู้แก่ใจว่า ไม่ยึดถือใด ๆ ในโลก ไม่ยึดถือแม้แต่ใจของเจ้าของ
ไม่อาลัยอาวรณ์สิ่งใด ไม่ยึดถือสิ่งใดเลย
สุดท้ายเหลือความรู้อยู่อย่างเดียวว่า ...
ไม่ยึดถืออะไรเลย แม้แต่ผู้รู้นั้นเองก็ไม่ยึด
ใจผู้รู้นั้นเอง ก็ไม่ยึดถือ
ไม่ยึดถืออะไรเลย
สิ่งใดที่ถูกรู้ในโลกนี้ทั้งหมด ไม่ยึดถือเลย
สุดท้ายรู้แจ้งว่าแม้แต่ใจผู้รู้ของเจ้าของเอง
หรือ จิตผู้รู้ของเจ้าของเอง ก็ไม่ยึดถือมันด้วย
เหลือแต่ความรู้แจ้งแก่ใจว่า ...
บัดนี้อะไร ๆ ก็ไม่ยึดถือสักอย่างเดียว
".....สิ้นผู้ยึดถือ สิ้นผู้เสวย ..."
พระอริยะเจ้าทั้งหลายอยู่กับ "รู้" นี้แหละ
รู้อะไร … ? รู้แก่ใจว่า ...
บัดนี้สิ้นแล้วซึ่งความยึดถือใด ๆ ในโลก
ผู้ยึดถือไม่มี
ภพชาติหน้าใหม่ไม่มี
ภพชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
ตายแล้วไม่มีผู้ออกจากร่างนี้ไป
ไม่มีตัวตนของเราออกจากร่างนี้ไป
ผู้กลับมาเกิดใหม่ในภพใดก็ไม่มี
มีแต่ความรู้แจ้งแก่ใจว่า...
สิ้นยึดถือแล้ว สิ้นผู้เสวยแล้ว ภพชาติหน้าใหม่ไม่มี
กิเลสและความทุกข์ทั้งหลายไม่มีอีกแล้ว ไม่ยึดถือใด ๆ เลย
แล้วก็ดับไปด้วย "ความรู้แจ้ง"
เหลือแต่ความรู้ที่สิ้นยึดถือ
เป็น "ความรู้" หรือ "ธาตุรู้" ที่บริสุทธิ์
เป็นธาตุรู้ที่บริสุทธิ์ คือ เป็นธาตุที่ไม่มีใครยึดถือ แม้แต่ธาตุรู้นั้น
เป็นธาตุรู้ที่บริสุทธิ์ของธรรมชาติจริง ๆ
ไปรวมกับธาตุรู้ ที่เป็นความว่าง
ไปรวมกับความว่าง ธาตุรู้ไปรวมกับธาตุว่าง
ที่เป็นอากาศธาตุ เป็นอวกาศ
อย่างเป็น "อมตะ" ตลอดกาล
ส่วนจิตวิญญาณที่จะเป็นกายโปร่งแสง
จิตวิญญาณที่มีรูปร่างเป็นกายโปร่งแสง
ก็ดับหายไป ... เหมือนดั่งเปลวไฟที่สิ้นเชื้อ
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190215B-1 ดับสนิทไม่มีส่วนเหลือดั่งเปลวไฟที่สิ้นเชื้อ
15 กุมภาพันธ์ 2562
ฟังจากยูทูป :
https://www.youtube.com/watch?v=vRMuczo7kkA