ปล่อยให้ความคิดคำนึงมันคิดไป
แต่ใจกระเพื่อมไม่ได้ ใจไหวตัวไม่ได้
ใจกระดุกกระดิกไม่ได้ แม้แต่ปรมาณูหนึ่งก็กระดุกกระดิกไม่ได้
เพราะมันเป็นธรรมชาติของ "วิสังขาร" หรือ "อสังขตธาตุ" มันกระดุกกระดิกไม่ได้
จงปล่อยให้ความคิดคำนึง ความตรึกความตรองเป็นอิสระอย่างแท้จริง แล้วก็จะกลายเป็นใจ ที่มันไม่อาจกระดุกกระดิกได้
แล้วก็ใจที่ไม่กระดุกกระดิกได้ ก็เป็นใจอิสระจากตัวเรา คือ ไม่มีตัวเราไปครอบครองใจ
มันเป็น 2 ขั้นตอน คือ ใจเป็นอิสระจากสังขาร
พอใจอิสระจากสังขารเสร็จ ปุ๊บ! ก็จะมีเราไปเข้าครอบครองเป็นเจ้าของใจ ที่มันไม่กระดุกกระดิก ที่มันเงียบสงบสงัดที่มันว่างเปล่า ที่มันบริสุทธิ์
งั้นสุดท้ายมันต้อง ใจนั้นเองต้อง “เป็นอิสระ" จาก "ตัวเรา”
ใจเนี่ยเดิมมันอิสระจากสังขารแล้ว แล้วมันจึงเข้าไปถึงใจที่ไม่สังขาร ไม่กระดุกกระดิก พอเราไปพบตรงนั้น แล้วเราก็จะเข้าไปครอบครองเป็นเจ้าของใจ
มันจึงไม่บริสุทธิ์ มันจึงยังเป็น "อวิชชา ตัณหา อุปาทาน" ยังมีคนขี้ตู่ ไปขี้ตู่ "ใจ" ที่เป็นธาตุรู้ที่บริสุทธิ์ตามธรรมชาติ
พอมีคนขี้ตู่ ปุ๊บ ! ไม่บริสุทธิ์เลย แปดเปื้อนเลย
แปดเปื้อนมลทิน คือ “ตัวเรา" ที่เข้าไป "ยึดถือ”
สุดท้ายมันเหลือแต่ใจ ที่มันไม่กระดุกกระดิกไม่เคลื่อนไหว ไม่ปรุงแต่งโดยธรรมชาติของเค้าเอง
เพราะเค้าเป็น "อสังขาร"… "อสังขตธาตุ" … "วิสังขาร "
อสังขาร อสังขตธาตุ เป็นธรรมที่ไม่ปรุงแต่ง
เป็น "อสังขตธรรม" เป็นธรรมที่ไม่ปรุงแต่ง
เป็น "นิพพานธาตุ" เป็น "สุญญตาธาตุ" เป็น "มหาสุญญตาธาตุ " เป็นอมตะเพราะว่าไม่เกิดไม่ดับ
ถ้าสิ่งใดเกิดดับได้ย่อมไม่เที่ยง แต่นี่เค้าเป็น "อมตธาตุ" "อมตธรรม" เพราะว่าไม่เกิดไม่ดับ เพราะเมื่อไม่เกิด ย่อมไม่ดับ
ดังนั้นเค้าจึงไม่อาจจะปรุงแต่งแม้แต่ปรมาณูเดียว
สังขารทั้งหมดถูกปล่อยวาง ไม่เยื่อใยใยดีซะแล้ว มันจึงกลายไปเป็นใจที่ไม่ปรุงแต่ง
แต่พอเป็นใจที่ไม่ปรุงแต่ง ปุ๊บ! ไอ้เราเนี่ย ผู้รู้ ถึงรู้ว่าบัดนี้ ... ใจมันไม่ปรุงแต่งแล้ว เป็นใจที่ไม่ปรุงแต่งแล้ว
พอ “เราเป็นผู้รู้” ปุ๊บ !เราก็จะยึดถือครอบครองเป็นเจ้าของใจ
"… ก็รู้เท่าทัน ..."
เอาความปรุงแต่งไปเป็นตัวเรา เอาตัวเราไปปรุงแต่งเป็นเจ้าของอีกชั้นหนึ่ง
เหลือใจที่เงียบอย่างเดียวเลย ไม่มีผู้ยึดถือ
นั่นแหละ.. คือ ความบริสุทธิ์ เป็นธาตุรู้ที่บริสุทธิ์แท้ เป็นใจที่บริสุทธิ์แท้ คือมันบริสุทธิ์โดยไม่มี "ตัวเรา" ไปเป็นเจ้าของมัน
แต่ถ้ามันบริสุทธิ์โดยมีเราเป็นเจ้าของมัน จะเรียกว่าบริสุทธิ์ก็ไม่ได้
เพราะว่ามันแปดเปื้อนมลทินด้วย "ตัวเรา" … เรา … ตัวเรา … ของ “ของเรา”
เราไปยึดมันเป็นของของเรา
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190214B-1 สิ้นอาลัยใจเรา
14 กุมภาพันธ์ 2562
ฟังจากยูทูป :
https://www.youtube.com/watch?v=UR2hbYInpD0
ดาวน์โหลด (คอมพิวเตอร์) :
http://www.luangtanarongsak.org/home/index.php/sound-2562/sound-feb-62