กราบหลวงตาค่ะ
เข้าใจภาพการ์ตูนด้านบนเลย เราทุกคนไม่มากก็น้อย มาจากมุมที่มี เรา ... (>_<)
เพราะยิ่งมองไปในมุมของสังขาร ในสมมุติที่ยึดในขันธ์ห้า ว่ามีจริงเป็นเรา เป็นเขา
มันจะหลงไปสร้าง
มีสิ่งที่ต้องให้ได้...
มีเราที่ต้องให้เป็น...
ความมี... ตัวเรา... เป็นเรา...
ที่จะรอคอย...
ที่จะให้อะไรมันเกิด...
ที่จะหวังว่าจะสามารถยึดไว้ได้...
ที่จะรอรับผลที่คาดไว้...
ที่จะเป็นถาวรตลอดไป...
ที่จะได้ครอบครอง...
ที่จะได้ในสิ่งที่หวัง...
ที่จะได้อะไรเป็นจริงเป็นจัง...
**ที่จริงจัง จะเอา เพราะหลงไปมี... “เรา”.. **
**ที่มีเรา เพราะไม่เข้าใจความจริงของชีวิต**
เมื่อมันไม่อยู่กับความจริงตรงหน้า เพราะมี... “เรา”... ที่จะไปถึง ไปได้ มันไปหมาย ไปมีจุดมุ่งไป (มีที่จะ มุ่งไป)
เพราะมุ่งไปนั้น มันเลยพลาดที่จะเห็นความเป็นจริงทั้งหมด ณ ปัจจุบันขณะ
ทั้งหมดหยุด จบลงที่ใจ
ที่ขณะนี้ เดี๋ยวนี้
น้ำตาของเราทุกคนถึงได้ไหลเนืองนองมาไม่รู้กี่ภพ กี่ชาติ นับไม่ถ้วน
เมื่อมันยังมี อาการ...
มุ่ง... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
วุ่น... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
วนหา... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
ทะยาน... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
สืบเสาะ... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
ค้นคว้า... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
แสวงหา... เพื่อที่จะอะไร เพื่อใคร...?
ต่อเมื่อเข้าใจความเป็นจริงว่า อาการทั้งหลาย... นี้
เป็นเพียงสังขาร
ไม่ใช่ ตัวเรา ตัวเขา ของเรา ของเขา คน สัตว์ สิ่งของ
มีสภาพทุกข์ อนิจจัง อนัตตา
ทุกข์
มีลักษณะทนอยู่ตลอดไปไม่ได้ ถูกบีบคั้นด้วยอำนาจของธรรมชาติทำให้คงอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้
อนิจจัง
มีลักษณะการแปรเปลี่ยนไปเป็นธรรมดา
อนัตตา
มีลักษณะไม่สามารถบังคับให้เป็นไปดังต้องการได้ ไม่มีตัวตนที่เที่ยงอยู่จริง
เมื่อใจยอมรับ... และเข้าใจตามความเป็นจริง
ใจย่อมถึงใจ
ใจย่อมรู้ใจเอง
“ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิติ”
พึงรู้ได้เฉพาะตน
กราบแทบเท้าหลวงตาคะ
ปกิณกธรรมโดยลูกศิษย์หลวงตา (OP)
31 มีนาคม 2563
ที่มาภาพการ์ตูน : ลูกศิษย์หลวงตาถวายรูปการ์ตูนที่เขียนแปลอังกฤษ-ไทย เพื่อส่งการบ้าน จากปุจฉาวิสัชนาเรื่อง “ตายก่อนตาย... “นิพพาน” วันที่ 29 มีนาคม 2563