สุญญตาแท้ ๆ ก็คือใจของเรานั่นแหละ
สุญญตาแท้ ๆ ก็คือใจของเรา ..
แต่เรากลับจะเอาใจของเราเนี่ยไปหาอะไร
เรากลับเอาใจเราไปหาพระนิพพาน กลับเอาใจของเราจะไปเอานิพพาน
แต่แท้ๆ มันก็คือใจของเรานี้เอง
เราเอาใจของเราไปรังเกียจสิ่งที่ไม่ถูกใจไม่พอใจ
เพราะเราจะไปเอาอย่างอื่นซึ่งเราคิดว่ามันมีความสุขยิ่งกว่า สิ่งนี้มันไม่ใช่ความสุข
เรารังเกียจสิ่งที่ไม่ถูกใจ ไม่พอใจ ที่มันคับแค้นใจ
ที่มันอึดอัดคับข้อง
เราจะเอาความสบาย เราจะไปเอาความสงบ ไปเอาความว่าง ไปเอาความเบา ไปเอาความโปร่งโล่งเบาสบาย
แต่ "ใจ" ไม่เป็นอย่างนั้นเลย
ใจไม่มีทั้งความโปร่งโล่งเบาสบาย
ไม่มีทั้งความสุข ไม่มีทั้งความทุกข์
ไม่มีทั้งความแน่นอึดอัด ไม่มีทั้งความทึบ ไม่มีทั้งโปร่งโล่งเบาสบาย
#ใจเป็นสภาพรู้อย่างเดียว มีสภาพรู้อย่างเดียว
#ตัวตนของใจไม่มี เป็นศูนย์ไง เป็นศูนย์เพราะว่าตัวตนของมันไม่มี ไม่ใช่มีเลขศูนย์
คือศูนย์คือตัวตนของมันไม่มี
มันไม่ใช่ทั้งสุขและไม่ใช่ทั้งทุกข์
ใจมันมีสภาพที่มันไปเอาอะไรไม่ได้เลย
มันจะไปรังเกียจอะไรก็ไม่ได้ จะไปผลักไสอะไรก็ไม่ได้ จะไปเอาอะไรก็ไม่ได้
ใจไม่มีสภาพที่ไปดิ้นรนผลักไสทุกข์ ไปเกลียดทุกข์
ใจไม่มีสภาพที่จะไปรักสุขได้
เพราะมันเป็นความไม่มีตัวตนเลย ไม่ใช่เลขศูนย์ แต่เปรียบเทียบว่ามันเปรียบเหมือนศูนย์
#จะไปเอาอะไรมันก็เป็นบวกบวกบวกขึ้นไปไม่ใช่ศูนย์
#ไปรังเกียจอะไรดิ้นรนผลักไสอะไรมันก็เป็นลบลบลบมากขึ้นไปไม่ใช่ศูนย์
ท่านจึงเรียกศูนย์นั้นว่า "สุญญตา" เพราะไม่มีตัวตนไม่มีอะไรเลย ไม่เอาอะไรเลย ไม่คิดจะไปเอาอะไรเลย ไม่ดิ้นรนผลักไสอะไรเลย
เพราะใจของตัวเองนั่นแหละ
#ผู้ใดพบใจผู้นั้นพบธรรม
#ผู้ใดถึงใจผู้นั้นถึงพระนิพพาน
ใจของตัวเองนั้นแหละ
แต่เราพลาดถนัดที่จะเอาใจไปหา "นิพพานนอกใจ"
"หลายคนดิ้นรนแสวงหาหนทางไม่มีที่สิ้นสุด แต่บางคนน้อยคนนัก
ที่สิ้นสุด... เพราะหยุดแสวงหา...
คือ "จบที่ใจ" ของตัวเอง"
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย