โยม: หลวงตาคะ พอดีว่าเมื่อคืนน่ะค่ะ มันจะมีความรู้สึกวูบหนึ่งตอนเหมือนกำลังจะมีความคิดเกิดขึ้น
แล้วมันก็วูบกลับมา มันรู้สึกว่ามันวูบกลับมาที่ใจน่ะค่ะ
เหมือน...บอกไม่ถูก พอความคิดมันกำลังจะขึ้น
กำลังจะเห็นว่ามันกำลังจะไปคิดอะไร แล้วมันก็วูบ!
เป็นความรู้สึกแบบนี้น่ะค่ะ
ไม่ทราบว่าเพราะว่าเราไปดึงหรือไปอะไรไว้หรือเปล่าคะ ...?
หลวงตา: เออ มันก็คิด วูบไปแล้วมันก็คิดต่อนั่นแหละ
มัน จุ๊กจิ๊กๆ ว่าอะไรเป็นอะไร
มันก็ไปวูบแล้วมันก็คิดต่อจุ๊กจิ๊ก ๆ อะไรต่อ
ไม่ใช่ว่าเราจะไปสนใจตรงวูบ
พอวูบแล้วเราก็คิดว่าไง คิดว่า เอ๊ะ ... นี่มันคืออะไรหว่า ...?
เอ๊ ะ... ทำไมมันวูบหว่า อะไรหว่า ...? มันก็คิดต่อ
เราก็เห็นตัวใหม่เรื่อยไป ตัวปัจจุบัน
เห็นจิตปัจจุบัน .... จิตปัจจุบัน
ไม่ใช่ว่าเราไปคาอดีตเป็นธรรมเมา
พอเห็นจิตมันวูบลงไป เอ ... ความคิดมันทำไมวูบลงไป
แล้วเราไปยุ่งแต่ไอ้ความคิดวูบลงไป
แต่ไอ้จิตที่จะพูดจ๋อย ๆ จ๋อย "ในปัจจุบัน" เราไม่ทันมัน
อันนี้ก็หลง ... หลงนะ "ธรรมเมา"
หลงอารมณ์อดีต หลงความคิดอดีต เป็นธรรมเมา
ให้เห็นจิตปัจจุบัน ผู้รู้ปัจจุบันที่มันพูดได้อยู่ในขณะปัจจุบัน
ให้ทันจิตปัจจุบัน ผู้รู้ที่พูดได้ คิดได้ ทั้งรู้ทั้งคิด ๆ อันปัจจุบันน่ะ
ให้รู้ อันใหม่ขึ้นไป จิตอันใหม่ที่มาเป็นผู้รู้อันใหม่
ไปคิดอันใหม่ ผู้รู้อันใหม่ คิดอันใหม่
"ให้ทันจิตปัจจุบัน" ก็คอยสังเกตมัน
ไม่ใช่ว่าไปไล่ดับอะไรหรอก ได้แต่ "แค่รู้"
เข้าใจมั้ย
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย