โยม 1 : น้อมกราบถวายการปฏิบัติบูชาเจ้าค่ะ
เดินจงกรมประมาณ 30 ก้าว เห็นร่างล้มลงตาย ใจสลด น้ำตาไหลสะอึกสะอื้น ขึ้นอืด พองโต หนอนกัดกิน แตกสลายไปปนกับดิน
กระดูกกลับมาประกอบต่อกันเป็นเท้า ใจสลด กระดูกต่อ ๆ เป็นส่วนขาและต่อ ๆ ขึ้นไปจนครบถึงกระโหลกศีรษะ เนื้อและหนังเข้าห่อหุ้มกระดูก จากล่างขึ้นบนจนเป็นร่างเดิมยืนอยู่ที่เดิม
ร่างล้มลงตาย ใจสลดสังเวช ร่างขึ้นอืดพอง แตกสลายปนไปกับดิน ชิ้นส่วนกระดูกกลับมาต่อกันเป็นเท้า ต่อขึ้นไปจนครบทุกส่วนอีก
ใจสลดสังเวชตลอด น้ำตาไหลสะอึกสะอื้นตลอด สะอึกสะอื้นแรงขึ้นดังขึ้น ตอนร่างล้มลงและตอนชิ้นกระดูกกลับมาเริ่มต่อกันเป็นเท้า
เห็นความไม่เที่ยง เห็นความเปลี่ยนแปลง เห็นความเสื่อมสลาย เห็นทุกข์ รู้ขึ้นว่าบังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ไม่มีตัวตนเลย เห็นพระไตรลักษณ์แบบนี้ตลอดเวลาเจ้าค่ะ
สภาวะกลับไปกลับมาแบบนี้ประมาณ 10 รอบ จนเท้าซ่า ๆ เมื่อย ยืนต่อไม่ไหวแล้ว
น้อมกราบในมหาเมตตาที่องค์หลวงตามีต่อศิษย์เจ้าค่ะ
หลวงตา : เพียรรู้เห็นสัจธรรมความจริงอย่างนั้นอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายนะ จะมีคุณอนันต์
~~~~~~~~~~~~~
โยม 2 : หลวงตาเจ้าคะ เหลือเชื่อเลยเรื่องกายเป็นวัตถุธาตุ เป็นของไม่สวยงาม ไม่ควรหลงไหล กำลังเป็นเรื่องที่หนูอยากพิจารณาอยู่พอดีเลยค่ะ กำลังคิดว่าวันนี้จะพิจารณาเรื่องกายให้ปลง หลวงตาก็ส่งเรื่องนี้มาให้เลยค่ะ!!... เหลือเชื่อจริง ๆ
ประโยคสุดท้ายที่ว่า “ประพฤติดุจบุคคลถูกไฟไหม้ศีรษะ” หมายความว่าอย่างไรคะหลวงตา
หลวงตา : มีความรู้สึกว่าความตายซึ่งเหมือนไฟได้ไหม้คนอื่น ๆ ให้ถึงซึ่งความแก่ เจ็บ ตาย ตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พ่อ แม่ บางครั้งถึงลูก หลานแล้ว มันลามเข้าใกล้มาถึงเราแล้ว จะมัวประมาทในการอยู่ การกิน การนอน การพูดคุย การใช้ชีวิตให้สิ้นไปในวันหนึ่ง ๆ อีกไม่ได้แล้ว ไม่ได้อีกแล้ว ..... จึงขวนขวายรีบเร่งพิจารณาให้เห็นสัจธรรมความจริง
~~~~~~~~~~~~~
โยม 3 : ตื่นเช้ามา มันเดินความเพียรแต่เช้า วนอยู่ในกาย มันเห็นทุกอณูของกาย มันมีความรู้สึก คือความเป็นเราเคลือบ มันอยู่รวมกัน และรู้สึกว่า นี่คือกายเรา อย่างแยกไม่ออกเลย
เมื่อเห็นแล้ว จึงแยกกายออกจาก ความรู้สึก คือ วิญญาณที่รู้สึก ตัวโจรที่ยึด
เมื่อถอนตัวเราออกจากกาย สิ่งที่เกิดขึ้น คือ กายค่อย ๆ แตกปะทุบ้าง เน่า ดำ บ้าง มีแต่อวัยวะภายในบ้าง มันวนอยู่ตรงนี้ ซ้ำไปมา เดินความเพียรไปเรื่อย ๆ พิจารณากายเราบ้าง นิมิตภาพแฟน ก็คือ ร่างกายเขาก็ดำเน่า เช่นเดียวกัน
และของจริง กลับเกิดในชั่วขณะจิตหนึ่ง ที่หยุดเดินความเพียร เพราะจะลุกไปอาบน้ำ
อยู่ ๆ คำพูดในโพสต์หลวงตา ที่บอกว่า เมื่อ อายุ ไออุ่น และวิญญาณ จากไปเสียจากร่างกายนี้ จะเป็นเช่นไร
แล้วจิตมันวูบลงไปเลยเจ้าค่ะ มันวูบลงไป แล้วมันก็กลับขึ้นมาใหม่ ตอนมันกลับขึ้นมา ห้องทั้งห้องของคอนโด เต็มไปด้วยโครงกระดูก อัดแน่น ความรู้สึกของความตาย ขยายออกไปทั้งห้องเลย เจ้าค่ะ
แล้วก็มีเสียงขึ้นมาว่า เลือดเนื้อ โครงกระดูกของตัวเรา ผ่านมาในแต่ละภพชาตินี้ มากมายก่ายกอง เพียงนี้ ท่านยังจะไปต่ออีกหรือ แล้วมันก็ร้องไห้ เพราะยอมจำนนต่อความจริง เหมือนไม่เคยรู้สึกจริง ๆ มาก่อน ว่าภพชาติมันเป็นทุกข์มากมายเพียงนี้
เมื่อมันค่อย ๆ สงบลง จึงน้อมคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถอนอธิษฐานอีกครั้งเจ้าค่ะ
หลวงตา : สาธุ
หมายเหตุ : อ่านโอวาทธรรมที่โยม 2 และ โยม 3 อ้างถึงด้านล่างนี้
"ท่านทั้งหลาย ! จงดูรูปที่บุคคลทิ้งแล้ว
เมื่อใด อายุ ไออุ่น และวิญญาณ ละกายนี้
เมื่อนั้น กายนี้ก็ถูกทอดทิ้ง นอนเป็นเหยื่อของสัตว์อื่น
ปราศจากเจตนา ความสืบต่อเป็นเช่นนี้
นี้เป็นมายากลสำหรับหลอกลวงคนโง่
ขันธ์ ๕ เปรียบเหมือนเพชฌฆาต
เราบอกแล้ว สาระในขันธ์ ๕ นี้ไม่มี
ภิกษุผู้ปรารภความเพียร มีสติ มีสัมปชัญญะ
พึงพิจารณาขันธ์ทั้งหลายอย่างนี้ ทั้งกลางวันและกลางคืน
ภิกษุเมื่อปรารถนาบทอันไม่จุติ (พระนิพพาน)
พึงละสังโยชน์ทั้งปวง ทำที่พึ่งแก่ตน
ประพฤติดุจบุคคลถูกไฟไหม้ศีรษะ ฉันนั้น"
เผณปิณฑูปมสูตร
พระไตรปิฎกภาษาไทย
สงฺ. ขุ. ๑๗/๙๕/๑๘๐-๑๘๒
หมายเหตุ
"สังโยชน์" คือ กิเลสผูกมัดใจสัตว์กับทุกข์ มี ๑๐ ประการ
แชร์โพสต์ fb : ธรรมะเพื่อความพ้นทุกข์ โดย ท. ส. ปญฺญาวฑฺโฒ
https://www.facebook.com/145791755791959/posts/900087513695709/
~~~~~~~~~~~~~
โยม 4 : กราบขอโอกาสหลวงตาค่ะ คลิปชันสูตรศพนี้ ชัดเจนมากค่ะ อาจจะเป็นประโยชน์กับผู้พิจารณากายค่ะ
(กราบ)(กราบ)(กราบ)
~~~~~~~~~~~~~
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
23 กันยายน 2562