โยม : หลวงตาเจ้าค่ะ เช้านี้เหมือนมันมีระเบิดลูกเล็กระเบิดอยู่ข้างใน หลายลูกต่อ ๆ กัน เมื่อสองสามเดือนที่แล้วมันเหมือนมีระเบิดข้างในแต่เป็นระเบิดลูกใหญ่คล้ายปรมาณูทีเดียว ตูมสนั่นหวั่นไหวในร่างกาย
แต่เช้านี้เป็นเหมือนระเบิดลูกเล็ก ๆ ระเบิดต่อ ๆ กันเจ้าค่ะ
หลวงตา : ไม่ว่าอะไร อะไร ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาไปแล้ว
รู้แล้ว เข้าใจแล้ว ปล่อยผ่านไป ไม่ติดใจไว้ ไม่ยึดถือไว้ ไม่อาลัยอาวรณ์
อะไรที่ยังไม่เกิดขึ้น ถ้าเกิดขึ้น ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่อาจยึดถือได้ จะต้อง ไม่หลงยึดถือคาดหวังตั้งเป้าหมาย ไม่โหยหา ไม่กังวล
อะไรที่รู้เห็นปัจจุบันขณะ ก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัวตนคงที่ ไม่ใช่เป็นเรา ตัวเรา ของเรา ไม่อาจยึดถือได้
“ผู้รู้” ก็ไม่ได้เป็นตัวตน ไม่ใช่ตัวเราเป็นผู้รู้
ความคิด ความรู้สึกเป็นตัวเรา ของเรา ก็เป็นเพียงสังขาร(ปรุงแต่ง) เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
ธรรมทั้งมวล ล้วนไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้
“สัพเพ ธัมมา อนัตตา”
ธรรมทั้งมวลไม่ควรหลงยึดมั่นถือมั่น
“สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ”
“นิพพาน” คือ สิ้นผู้เสวย หรือ สิ้นผู้ยึดมั่นถือมั่น จึงสิ้นกิเลส ไม่มีตัวตนของผู้ทุกข์
โยม : สาธุ กราบขอบพระคุณหลวงตาเจ้าค่ะ
เข้าใจสิ่งนี้ด้วยใจ ตอนที่ส่งธรรมไปแล้ว (ทั้ง ๆ ที่เป็นธรรมจริง ๆ) หลวงตาก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย มันเอ๊ะ! มากว่าทำไม แต่มันก็ถึงใจโดยไม่ต้องสอนเป็นคำพูด เพราะของแท้มันไม่สามารถตอบสนองอะไรใด ๆ ได้
สิ่งใดเกิดขึ้น ธรรมใดจะเป็นธรรมไม่เป็นธรรม ผู้รู้ตัวจริงได้เพียงรับรู้เพียงเท่านั้น ไม่ยึดถือ ไม่อาจให้ค่าสิ่งใด หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งใดให้เป็นสิ่งใดได้เลยเจ้าค่ะ
หลวงตา : ธรรมใด ถ้ามีผู้ยึดถือ เป็นของปลอม
แม้อ้างว่าธรรมทั้งหมดนั้น “เราสิ้นยึดถือแล้ว” หรือ “เรานิพพานแล้ว” ก็เป็นธรรมปลอม นิพพานปลอม
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
1 มิถุนายน 2562