หลวงตาณรงศักดิ์ ขีณาลโย

  • หน้าหลัก
  • สื่อธรรมะ
    • หนังสือธรรมะ
    • เสียงธรรม
      • เสียงธรรมรายปี
      • ไฟล์เสียงจัดชุด
    • CD
    • e-Book ปุจฉา-วิสัชนา
  • ปุจฉา-วิสัชนา
  • ภาพธรรม
  • วิดีโอธรรม
  • ธรรมทัศน์
  • ธรรมถึงใจ
  • ธรรมโอวาท
    • โอวาทธรรม
      • โอวาทธรรม 60-61
      • โอวาทธรรม 62
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 62
        • โอวาทธรรม เม.ย.- มิ.ย. 62
        • โอวาทธรรม ก.ค. - ก.ย. 62
        • โอวาทธรรม ต.ค. - ธ.ค. 62
      • โอวาทธรรม 63
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 63
        • โอวาทธรรม เม.ย. - มิ.ย. 63
        • โอวาทธรรม ก.ค. - ก.ย. 63
        • โอวาทธรรม ต.ค. - ธ.ค. 63
      • โอวาทธรรม 64
        • โอวาทธรรม ม.ค. - มี.ค. 64
      • โอวาทธรรมถึงใจ
    • ปกิณกธรรม
    • ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม
    • โอวาทธรรมชุด
  • Other Languages
    • English
    • Deutsch

อย่ามัวหา “นิพพาน” นอกใจ

 โอวาทธรรม Q2 2562 26

 

มันจะเป็นอย่างนี้ ผู้ปฏิบัติธรรม มันจะหลงกันอยู่อย่างนี้แหละ วนอยู่อย่างเนี้ย แล้วเราก็กลับไปหานิพพานข้างหน้าโน้น วันพรุ่งนี้ วันมะรืนนี้ ประเดี๋ยวเราจะบรรลุ .... ไม่ใช่หรอก! ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นไปได้หรอก!

 

เพราะไอ้ “ตัวเรา” ที่บรรลุมันไม่มีหรอก เพราะไอ้ตัวเรานี่ มันขวางกันอยู่ มันบังกันอยู่
บัง “ธรรมแท้” ที่เป็น “นิพพานธาตุ” มันบังกันอยู่เนี่ย แต่เรากลับพยายามไปหามัน กลับไม่เห็น

 

คิดดูสิ ... มันอยู่กับเรา แต่เรากลับไม่เห็นมันน่ะ เหมือนกับที่ท่านกล่าวว่า ...

 

เปรียบเหมือนว่า “นิพพานธาตุ” มันเหมือน “ตา” เรา มันคือตา แต่สังขารทั้งหมดในโลกนี้ รวมทั้งร่างกายและจิตใจที่ปรุงแต่ง มันเป็น “สังขาร” สังขารเป็นสิ่งที่ถูกรู้
แล้วเอาตาเนี่ย ไปรู้ แต่ตามันไม่เคยเห็นตามันซะที แต่มันรู้แต่ “สิ่งที่มันเห็น”

 

“ใจ” ที่มันเป็นวิสังขาร มันไม่รู้จักตัวมันเองซะที มันรู้จักแต่ .... “สิ่งที่มันรู้” รู้จักแต่ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ รู้จักแต่จิตสบาย จิตไม่สบาย แต่มันไม่รู้จักตัวมัน เหมือนดั่งตาไม่เห็นตา

 

เกิดมาตั้งแต่เด็กจนโต ตาเนี่ยมองเห็นแต่อย่างอื่น มองเห็นแต่สิ่งที่ถูกเห็น แต่ตากลับไม่เคยเห็นตา

 

ใจกลับไม่เห็นใจ ... แต่เห็นแต่อาการของใจ ที่ใจมันไปรู้ แต่ใจกลับไม่เคยเห็นใจของตัวเอง แล้วจะทำยังไง?

 

แล้วเราก็พยายามสอนว่า ตาของท่านเนี่ย เปรียบเหมือนว่า ตาของท่านเนี่ย คือ “นิพพาน” แต่สิ่งที่ตาของท่านไปเห็น ไม่ใช่ “นิพพาน” มันคือ “สังขาร”

 

เปรียบเหมือนอย่างนี้ “ใจ” ของท่านมันคือ “นิพพาน” แล้วท่านจะไปหาใจที่ไหนล่ะ จะไปเอานิพพานที่ไหนล่ะ? ก็ใจของท่านน่ะ มันเป็นนิพพาน เหมือนกับตามันเป็นนิพพาน แต่ไอ้สิ่งที่ใจไปรู้เนี่ย มันไม่ใช่นิพพาน มันเป็นสังขาร

 

อะไรก็ตามที่เป็นความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ทุกขณะปัจจุบัน ที่มันเป็นผู้รู้ ผู้เพ่ง ผู้จ้องอะไรก็ตาม ผู้ดิ้นรน ผู้ทะยานอยาก ผู้คิด ผู้นึก ผู้ตรึก ผู้ตรอง ผู้รู้ ผู้เห็น ผู้เข้าใจ รวมทั้ง สติ สมาธิ ปัญญา มันก็เป็น “สังขาร” เป็นสิ่งที่ใจรู้ว่ามีสังขารอะไรเกิดขึ้นในใจ

 

เพราะว่า “สังขาร” คือ สิ่งใดสิ่งหนี่งที่มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งทั้งหมดนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา มีความเกิดเองเป็นธรรมดา และดับไปเป็นธรรมดา หรือว่าเกิดเองดับเอง ๆ ไม่มีใครทำเกิดไม่มีใครทำดับ มันเป็นธรรมดาที่เกิดขึ้นเองตามเหตุปัจจัย สิ้นเหตุปัจจัยมันก็ดับไปเอง

 

แต่ธรรมชาติที่เกิดเองดับเองตามเหตุปัจจัยน่ะ มันไม่ใช่ “ใจ”

 

“ใจ” มันเป็นธรรมชาติที่รู้สังขาร แต่ใจมันไม่ใช่สังขาร และใจน่ะมันกลับเป็น “นิพพานธาตุ” ซะอีก

 

ที่พวกเราน่ะอยากได้ แสวงหามัน แต่แท้ ๆ มันก็คือ “ใจ” เรานี่แหละ มันมีอยู่แล้วแต่เราไม่เห็นมัน แต่เรากลับเอาตัวเราทั้งตัวทั้งแท่ง “ขันธ์ห้า” พยายามไปหามัน

 

มันก็เลยเหมือนกับว่า เปรียบเหมือนกับว่าลูกตาเราเนี่ยมันเป็นนิพพาน แต่สิ่งที่ลูกตาเราไปเห็นมันเป็นสังขาร แต่เรากลับจะไปหาสังขารนอกลูกตาเรา แต่นิพพานมันคือตาของเรา แต่เราเกิดมาเราไม่เคยเห็นตาเรา เราจะเห็นตาเราได้ต่อเมื่อเอากระจกมาส่อง พอเอากระจกมาส่องเราเลยเห็นตาเราได้ ถ้าไม่มีกระจกส่อง เราเลยมองไม่เห็นตา

 

หลวงตาเป็นผู้บอกชี้แนะสอนท่าน เป็นเพียงแค่กระจกสะท้อน ส่องให้ท่านเห็นเท่านั้นแหละ ท่านจะมาเอา “นิพพาน” จาก “หลวงตา” ไม่ได้หรอก ท่านจะมาเอา “นิพพาน” จาก “พระพุทธเจ้า” ไม่ได้ เพราะว่าเป็นเพียงกระจกให้ท่านเห็นตาของท่าน
เป็นเพียงกระจกสะท้อนให้ท่านเห็น “ใจ” ของท่าน

 

เพราะนิพพานมันคือ “ใจ” ของท่าน

 

เป็นเพียงกระจกสะท้อนให้เห็นใจของท่านนั่นแหละ ว่าสิ่งที่ “ใจ” ของท่านไปรู้ ... มันไม่ใช่นิพพาน แต่ท่านก็ยังจะพยายามไปหามัน จะดิ้นรนค้นหามัน แล้วท่านจะหายังไงมันเจอเล่า?

 

เมื่อมันเป็นลูกกะตาของท่าน แล้วท่านจะไปหาลูกกะตาของท่านได้ยังไง แล้วท่านจะไปถามใครว่านิพพานอยู่ที่ไหน นิพพานอยู่ที่ไหน นิพพานมันอยู่ที่ไหน? ก็มันคือ ลูกกะตาของเรา

 

หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190504A-3 สังขารบังใจ
4 พฤษภาคม 2562

 

ฟังจากยูทูป :
https://www.youtube.com/watch?v=xeLi291sbnY

 

ฟังจากระบบซาวด์คลาวด์ :
https://soundcloud.com/luangtanarongsak/190504a-3

 

Tweet
  • Social sharing:
  • Add to Facebook
  • Add to Delicious
  • Digg this
  • Add to StumbleUpon
  • Add to Technorati
  • Add to Reddit
  • Add to MySpace
  • Like this? Tweet it to your followers!

Related items

  • 250307B-4 อวิชชาในผู้รู้
  • 250307B-3 เรียนรู้ในเหตุ เข้าใจในผล
  • 250307B-2 พุทธะ ธรรมะ สังฆะ อยู่ที่ใจ
  • 250307B-1 เมื่อไม่ยึดถือก็ไม่ต้องปล่อยวาง
  • 240914A-5 เงื่อนไขบังธรรมเพราะความเข้าใจผิด
More in this category: « ปฏิบัติฝืนความจริง มันจะเสียท่ากิเลส »
back to top

Search

โอวาทธรรม Archive

  • โอวาทธรรม 60-61
  • โอวาทธรรม 62
    • ม.ค. - มี.ค. 62
    • เม.ย. - มิ.ย. 62
    • ก.ค. - ก.ย. 62
    • ต.ค. - ธ.ค. 62
  • โอวาทธรรม 63
    • ม.ค. - มี.ค. 63
    • เม.ย - มิ.ย. 63
    • ก.ค. - ก.ย. 63
    • ต.ค. - ธ.ค. 63
  • โอวาทธรรม 64
    • ม.ค. - มิ.ย. 64
  • โอวาทธรรมถึงใจ
  • ประชาสัมพันธ์สื่อธรรม
  • โอวาทธรรมชุด

5BA01AEA 57EC 462B B6FB 90B6B03148ED

719CBB23 865C 4DF5 A1C8 222F752DCCBB

« May 2025 »
Mon Tue Wed Thu Fri Sat Sun
      1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31  

Facebook

เพจหลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย

บทถอนอธิษฐาน

  • บทถอนอธิษฐาน
Copyright © หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย 2025 All rights reserved.
โอวาทธรรม เม.ย.- มิ.ย. 62