โยม : หนูมีคำถามว่า ถ้าเราปฏิบัติ ไปด้วย ฟังลิงค์ไปด้วย จิตมันพิจารณาธรรมตาม มีการขัดเกลาจิต เเต่ถ้าเราไม่ฟังลิงค์ เหมือนจิตจะฟุ้งจังค่ะ เเบบนี้เราจะเสพติดการฟังธรรมควบคู่กับการปฏิบัติมั้ยคะ
หลวงตา : จะต้องมีปัญญา 3 คือ
1. สุตมยปัญญา คือ มีปัญญาจากการอ่าน การฟังให้มาก ๆ ๆ ... จนเป็นแฟนพันธุ์แท้กันจริง ๆ ๆ ...
2. จินตามยปัญญา คือ นำความรู้ ความเข้าใจที่ได้จากการอ่าน การฟังในขณะปัจจุบันนั้น ๆ น้อมพิจารณาร่างกายและจิตใจของตนเองอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดวรรค ขาดตอน จนกว่าจะประจักษ์ในสัจธรรมความจริงว่า ร่างกายและจิตใจ หรือ ขันธ์ห้า คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่ใช่ตัวตนคงที่ที่ยึดถือได้
3. ภาวนามยปัญญา คือ มีปัญญารู้แจ้งในสัจธรรม ด้วยใจของเจ้าของเองว่า ร่างกายและจิตใจ หรือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ไม่มีตัวตนที่คงที่อยู่จริง ๆ ต้องแก่ เจ็บ ตาย เน่าเปื่อย ผุพัง สลายกลับคืนสู่ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ธาตุอากาศ และ ธาตุรู้ตามธรรมชาติ ไม่เหลืออะไรที่เป็นตัวตน เป็นเรา เป็นตัวเรา หรือ เป็นของเราเลย
***** ใจเขาก็จะสิ้นความหลงยึดมั่นถือมั่นของเขาเอง เรียกว่า “ปล่อยวาง” ความหลงยึดถือ
ไม่ใช่ปฏิบัติผิด โดยเอาตัวเราไปพยายามปล่อยวาง หรือ พยายามท่องว่าปล่อยวาง ปล่อยวาง.... อย่างนี้ ไม่ได้ปล่อยวางความหลงยึดถือว่าเป็นตัวเรา แต่พยายามเอาตัวเราไปปล่อยวาง
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
30 เมษายน 2562