ทวนเข้าหา “ผู้รู้” ทวนเข้าหาจิตเดิมแท้ ที่เค้าเรียกว่าทวนกระแส เราจะเห็นเยอะ ที่เค้าแต่งตำราไว้ที่เค้าเขียนไว้ ... “ทวนกระแส”
เลขหนึ่งไทยเราเนี่ย เลขหนึ่งไทยเราจะเป็นเหมือนก้นหอยใช่มั้ย? เลขหนึ่งไทยเราจะเหมือนก้นหอย มันจะวนจากข้างในก่อน แล้วออกข้างนอกใช่มั้ย?
วนจากข้างในออกไปข้างนอก อันนี้คือ ... ส่งจิตออกนอก เค้าเรียกว่าออกไปจาก “อัตตา” แต่ความจริงแล้ว เลขหนึ่งไทยเรา ก่อนที่จะเขียนน่ะ หัวมันจะกลม ๆ เล็ก ๆ ก่อน แล้วมันก็หมุนรอบที่หนึ่ง ... หมุนรอบที่สอง ... หมุนรอบที่สาม ... คือหางน่ะ มันยาวออกไปเรื่อย ๆ “หมุนรอบ” ... ไม่รู้จบสิ้น นั่นน่ะ คือ ส่งจิตออกนอกไปเรื่อย ๆ ปรุงแต่งออกไปเรื่อย ๆ
แต่การปรุงแต่ง มันเริ่มต้นมาจากวงกลม ๆ เล็ก ๆ ตรงกลางก่อน คือ “สุญญตา” แล้วมันก็หมุนเป็นวงรอบตัวมันเอง รอบที่หนึ่ง... รอบที่สอง ... รอบที่สาม ... รอบที่สี่ ... หมุนส่งออกนอกไปเรื่อย นี่เค้าเรียกว่าส่งออกนอกไปตามกระแสของ “กิเลส” คือเริ่มต้นออกมาจาก “สุญญตา” แล้วเราไม่เห็นมัน
เดิมมันเป็นแค่ “สุญญตา” คือวงกลม ๆ เล็ก ๆ ตรงกลาง แล้วมันก็หมุนรอบตัวมันเองเป็นขีด หมุน... โค้ง... หมุนอ้อมรอบตัวมันเลย ให้เป็นหางยาว ๆ หางหมุนรอบไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่จบสิ้น รอบที่หนึ่ง ... รอบที่สอง ... รอบที่สาม ... รอบที่สี่ ...
ดังนั้น เมื่อไม่รู้เท่าทัน มันก็ไปหลายรอบ พอเรารู้เท่าทันเนี่ย มันก็ตัดรอบให้สั้นลง ... ตัดรอบให้สั้นลง พอเรารู้เท่าทัน... ที่ว่า ความหลงสังขาร หลงปรุงแต่งไปยาว ๆ
มันก็ตัดรอบให้ สั้นลง ๆ ๆ
ที่สุดน่ะ...มันสั้นทวนกระแสเข้ามาใกล้ถึง “สุญญตา” ตรงกลาง คือ “ใจ” ที่ไม่ปรุงแต่ง
เค้าจึงเรียกว่า... “ทวนกระแส”
อย่าตามกระแส ถ้าตามกระแสโลกตามกระแสกิเลสน่ะ มันจะเหมือนเลขหนึ่งไทย
เลขหนึ่งไทย คือมีหัวกลม ๆ ตรงกลาง “สุญญตา” แล้วก็เริ่มต้นออกไป เรามองไม่เห็น เราไม่รู้เท่าทันมันสติปัญญาไม่รู้เท่าทันมัน มันก็ต่อหางหลายรอบทีนี้ หมุนหลายรอบ
ไปยาวเป็นหางว่าวเลยตอนนี้ พอทวนกระแส มันก็หายไปทีละรอบ รอบยาว ๆ มันเหลือ... สิบรอบก็เหลือ... เก้ารอบ มันก็เหลือลดมาเรื่อยเลย เก้า... แปด... เจ็ด... หก... ห้า... สี่... สาม... สอง... เหลือสองรอบแล้ว เหลือหมุนสองรอบ... หนึ่ง ... เหลือหมุนหนึ่งรอบแล้วก็... ฟื๊บ!… เหลือศูนย์ เห็นมั้ย เลยเป็น “สุญญตา”
ตัวที่จะตัดให้มันลดทอนลง ลดทอนลง ทีละรอบ ๆ ๆ จากเก้ารอบ... เหลือแปด... เจ็ด... หก... ห้า... สี่... สาม... สอง... หนึ่ง จนเหลือหนึ่งรอบ แล้วก็จนกระทั่งพอเข้ามาหนึ่งรอบแล้ว ง่ายแล้วทีนี้ มันหลงไม่ยาวแล้ว
รอบหนึ่งที่มันเป็นขีด “หมุนรอบ” เป็นเลขหนึ่งไทย มันคือ “หลงสังขาร” คือ ขีดที่หมุนออกไปได้ คือ “สังขาร” คือความคิดความปรุงแต่ง คือจิตที่ปรุงแต่ง จิตตสังขารที่ปรุงแต่ง คือ รอบหนึ่ง ๆ ๆ พอถึงแค่หนึ่งรอบ ตอนนี้ง่ายแล้ว
พอมันเริ่ม “Jump start” เริ่ม start ออกมาเป็นขีด เริ่มเป็นสังขาร เริ่ม “จิตตสังขาร” ปรุงแต่งอะไรก็ตาม ที่เป็นลักษณะปรุงแต่ง ปุ๊บ! เห็นมันเลย ... เห็นที่ “ต้นจิตปรุงแต่ง” เริ่มต้นปรุงแต่ง ...เริ่มต้นปรุงแต่ง เรียกว่า “รู้ต้นจิต จิตต้นพ้นโหยหวน รู้ปลายจิตผิดทันที”
คือ ถ้ามันไปหลายรอบน่ะมันผิดอยู่แล้ว หูย ... ไปตั้งหลายรอบ จนเป็นเก้ารอบแล้ว
หมุนเลขหนึ่งไทยไปเก้ารอบ ... ยังไม่รู้ทันนี่ก็ไปยาวเลย
ทีนี้มันก็ สั้นเข้ามา ๆ คือ “ต้นจิตปรุงแต่ง” สุดท้ายพอพ้นต้นจิตปรุงแต่ง มันก็เลยไปถึง...ต้นจิตปรุงแต่งเนี่ยมันเริ่มต้นออกมาจาก “ใจ” ที่ไม่ปรุงแต่ง คือ “ธาตุธรรมชาติ” ที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่เกิดไม่ดับ แล้วก็ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรปรุงแต่งเลย แล้วก็เริ่มต้นปรุงแต่งออกมา
จนกระทั่งไปพบแม่มันจริง ๆ คือ แม่ที่ผลิตตัวปรุงแต่งออกมาจริง ๆ พอพบแม่มันซะแล้ว ตัวปรุงแต่งก็หมดความหมาย เค้าเรียกว่า .... “ทวนกระแส”
ทวนกระแสโลกเข้าหาธรรม คือ “ใจที่ไม่ปรุงแต่ง” สุดท้ายเข้ามาถึง “ใจ” ที่ไม่ปรุงแต่ง
คือ สิ้นความปรุงแต่ง สุดท้ายมาจบลง... “สิ้นความหลงปรุงแต่ง”
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190318A-4 รู้ต้นจิต
18 มีนาคม 2562
ฟังจากยูทูป :
https://www.youtube.com/watch?v=RTEMOKlcZ0g