อันดับแรกมันต้อง “ไม่ฟุ้งซ่าน” ซะก่อน มันจึงสังเกตได้ เพราะว่ามันจะฟุ้งซ่านเนี่ย... ตื่นมาทีไรตอนเช้าของหายทุกที สมมุตินะ แต่ไม่เจอตัวคนร้ายสักที
เอ๊ะ.. ตื่นมาตอนเช้า... ของหายอีกแล้ว มีแต่รอยเท้าเหยียบย่ำไว้เต็มเลย ไม่เจอคนร้ายสักที ไอ้คนร้ายตัวจริงมันคือ “อวิชชา” ไง
อวิชชา ตัณหา อุปาทานก็คือคนร้ายตัวจริง ทีนี้มันไม่เจอคนร้ายตัวจริงซะที ตื่นมาทีไรคนร้ายลักของ คือขโมยไปหมด หมดตัว หมดใจ เป็นทุกข์ เครียด กิเลสตัณหาเอาไปกินเรียบ ไม่เจอคนร้ายตัวจริงซะที
พอเรารู้แล้วว่ามันมีคนร้ายมาลักของ เราจะมัวไปฟุ้งซ่าน ไปเที่ยวเตร่... ฟุ้งซ่านคือไปเที่ยวร่อนไปทั่ว กลับมาทีไรไอ้คนร้ายมัน “ยกเค้า” ไปหมด
กลับไปจากฟังธรรมหลวงตาเสร็จ เที่ยวร่อนไปทั่ว คือปล่อยจิตส่งออกเที่ยวร่อนไปทั่ว พอเราส่งจิตเที่ยวร่อนออกไปทั่ว บ้านมันก็โดนคนร้ายเข้ามาฉกเอาไปหมดเลย นี่คือโทษของมัน
เมื่อเรารู้แล้วว่ามันมีคนร้ายอยู่ในใจเรา มันลักของ ทำให้เราเป็นทุกข์เดือดร้อนในภพนี้และภพชาติหน้าต่อไป พอเรารู้อย่างนี้เราก็ไม่เที่ยวร่อนไปทั่วแล้วทีนี้ ส่งจิตใจเที่ยวร่อนไปทั่ว ส่งออกภายนอก คนร้ายก็เข้าแอบมาข้างหลังตีท้ายครัวเสร็จ เราก็เฝ้าอยู่เงียบ ๆ ซุ่มอยู่เงียบ ๆ สังเกตอยู่เงียบ ๆ ว่าใครเป็นคนร้าย
ผู้สังเกตไม่ได้ว่าสังเกตเพื่ออะไรนะ ไม่โวยวาย กระโตกกระตาก จะต้องไปเอาอะไรกับคนร้าย มันฆ่าตาย ได้แต่สังเกต ดูมันเงียบๆ ต้องการดูว่าใครมันเป็นคนร้ายแค่นั้นแหละ ดูหน้าตามันแค่นั้นเอง ไม่ใช่ว่าไปตีโพยตีพาย โวยวาย ออกไปทะเล่อทะล่า มันยิงตาย
ไปทำอะไรมันไม่ได้หรอก สิบแปดมงกุฏน่ะ เรารู้ว่าไอ้เนี่ยเป็นคนร้ายที่เป็นสิบแปดมงกุฏ มันมีอาวุธมา เราจะทะเล่อทะล่าไปฆ่ามันไม่ได้หรอก เราก็สังเกตเห็นไอ้คนร้าย แล้วเราก็ไม่หลงเชื่อมันอีกต่อไป มันก็ไม่ทุกข์
เราสังเกต มันต้อง “สังเกตอยู่เงียบ ๆ” จริง ๆ ว่าใครคือคนร้าย เรารู้ว่าคนร้ายตัวจริง คนร้ายมันเป็นยังไง ทุกครั้งที่มีความรู้สึกเป็น “ตัวกู” เนี่ยเป็นคนร้ายทุกที
ทีนี้เราสังเกตดูพฤติกรรมว่า... ทุกครั้งที่เป็น “ตัวกู” มันเกิดมีแสดงพฤติกรรมยังไง พอมันแสดงพฤติกรรมที่ “เป็นกู” ทีไร “กู.. ตัวกู” มันแสดงพฤติกรรมอย่างนี้ในจิตปุ๊บ... อ๋อ...นี่เหรอ สิบแปดมงกุฏเป็นคนร้ายตัวจริง
พอเห็นหน้าตามันชัด ๆ ต่อไปมันก็ไม่หลงไอ้พวกสิบแปดมงกุฏ ความทุกข์มันก็ไม่มี ไม่ใช่ไปฆ่ามัน ดับมัน เพราะอะไร พอจะไปฆ่ามัน... ไอ้คนที่จะไปฆ่ามันก็คือตัวสิบแปดมงกุฏ
มันต้องอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ไม่ใช่ว่าร่อนไปทั่ว เล่นแชท เล่นไลน์ เล่นเฟซบุ๊ค ส่งจิตออกนอกคนร้ายก็เข้ามาตีท้ายครัวไปหมด ต้มหมด
ต้องสังเกต!!! เราไม่ฟุ้งซ่านนะ เราสังเกตอย่างเดียว ยืน เดิน นั่ง นอน เข้าห้องน้ำ ห้องส้วม ดื่มกิน จะไปไหน เราสังเกตว่าพฤติกรรมของคนร้ายที่จะแสดงออกว่าเป็น “เรา” เป็น “ตัวเรา” เป็น “ของของเรา” ตัวกู... “กูจะเอา... กูจะเอา” มันเป็นยังไง
เดี๋ยวมันก็มีลักษณหลอกแบบโน้น หลอกแบบนี้ บางครั้งก็โดนมันต้มบ้าง แต่ไม่เป็นไร มันต้มเราก็ถือว่าประสบการณ์ ผิดเป็นครู โดนมันต้มมั่งเราก็มีประสบการณ์ เราก็มีประสบการณ์บ่อย ๆ หน้านี้ไม่โดนมันต้ม เดี๋ยวก็โดนหน้าอื่นหลอก
พอเราเห็นมันหลอก ๆ หลาย ๆ หน้า สุดท้ายเราก็ไม่หลงไปกับมัน เมื่อก่อนมันหลอกต้มเรื่อย พวกสิบแปดมงกุฏน่ะ
จนกระทั่งเราไม่หลงไปกับมัน ความทุกข์ก็ไม่มี
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190310A-2 สิ้นความปรารถนา ตอน 2
10 มีนาคม 2562
ฟังจากยูทูป :
https://youtu.be/JTwuTDyt2IQ
ฟังจากระบบซาวด์คลาวด์ :
https://soundcloud.com/luangtanarongsak/190310a-2-2
ดาวน์โหลด (คอมพิวเตอร์) :
http://bit.ly/2u8j2Kf