ทุกปัจจุบันขณะ ให้สังเกตเห็นตรงนี้ว่า ...
ไม่ว่าการคิด การพูด การกระทำอะไร
หรือ พฤติกรรมทางจิตยังไงก็ตาม
ต่อให้ไปเดินจงกรมไปนั่งสมาธิ
ต้องถามสังเกตตัวเอง ถามตัวเองว่า
ทำแบบนี้ เรากำลังทำแบบนี้ ใครเป็นคนทำ...? ทำเพื่อใคร ...?
ถ้าเราเป็นคนทำ ทำเพื่อ "ตัวเรา"
นั่นแหละ "อวิชชา ตัณหา อุปาทาน"
เพราะนิพพาน คือ มันสิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน
แต่เรากลับทำไปด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
ทำไปด้วยความอยาก ทำไปด้วยตัวเรา
นั่งสมาธิก็นั่งไปด้วย อวิชชา ตัณหา อุปาทาน
เดินก็เดินไปด้วยอวิชชา ตัณหา อุปาทาน
ถ้าทุกปัจจุบันขณะ เราสังเกตออกหมดเลยว่า
ไม่ว่าภายในจิตใจเราเนี่ยมีพฤติกรรมอะไร
ไปกระทำอะไร แล้วสังเกตออกหมดว่า ...
"ใคร" เป็นคนกระทำ
"ใคร" เป็นคนปรุงแต่ง
"ใคร" เป็นคนพยายาม
"ใคร" เป็นคนดิ้นรนค้นหา
“ใคร” เป็นคนไปพยายามกระทำ พยายาม ๆ ๆ
การพยายามใครเป็นคนพยายาม ?
"เรา" เป็นคนพยายาม
พยายามเพื่อใคร ...? พยายามเพื่อตัวเรา
ถามไปถามมามันมีลูกศรทิ่มแทงตัวเราหมดเลย
ถ้าอย่างงี้มัน "อวิชชา ตัณหา อุปาทาน" หมดเลย
มันจะไม่สามารถพ้นทุกข์ได้
ถ้าสิ้นอวิชชา ตัณหา อุปาทาน
ไม่มีตัวเราเป็นคนไปกระทำ
แล้วก็ไม่ได้กระทำเพื่อตัวเรา
และก็สังเกตออกหมดเลยในจิตใจ
มีความคิดความปรุงแต่งเพื่อตัวเรา
ไปกระทำเพื่อตัวเรา เอาตัวเราไปกระทำ
พอมี "ประธาน" คือ เอาตัวเราไปกระทำ
มันก็มี "กิริยา" พอมีกิริยาก็ต้องรับ "ผล"ของกรรม
เหมือนประโยคน่ะ ถ้ามีประธาน มีกิริยาก็ต้องมีกรรม
ไม่มีประธานก็ไม่มีกรรม มีแต่กิริยา
กิริยาก็กลายเป็น "กิริยาจิต"
กิริยาทางกาย "กายสังขาร"
กิริยาทางวาจา "วาจาสังขาร"
กิริยาจิต "จิตสังขาร" เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง ดับเอง
เกิดขึ้นเองดับเองตามธรรมชาติของขันธ์ห้า
แต่ถ้ามีเราเป็นผู้ไปขับเคลื่อนขันธ์ห้า
เพราะความอยากให้มันเป็นไปอย่างไร
ด้วยความอยาก คือ เพื่อ "ผลประโยชน์ของตัวเรา"
เอาตัวเราไปขับเคลื่อนในกิริยาของขันธ์ห้านั้น ก็กลายเป็นประธาน
พอมีประธาน กิริยามีเราเป็นประธาน
เราก็ต้องเป็นผู้รับผลของกรรม
ก็ต้องไปรับผลของกรรม
เวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบสิ้น
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190222B-2 ไม่หลงจิต ก็พบใจ
22 กุมภาพันธ์ 2562
ฟังจากเวบไซท์ :
เสียงธรรม Archive เดือนกุมภาพันธ์ 2562 เลือกชื่อไฟล์เสียงเพื่อดาวโหลด
ชื่อไฟล์ : 190222B-2 ไม่หลงจิต ก็พบใจ (ไฟล์แนะนำ)
http://www.luangtanarongsak.org/home/index.php/sound-2562/sound-feb-62