โยม : บางทีหนูก็สงสัยว่า “การทำจิตให้ว่าง” มันคือเหมือนแบบเราไม่ได้นึกคิด ไม่ได้ปรุงแต่ง คืออยู่เฉย ๆ อย่างนี้เหรอคะ หลวงตา ?
หลวงตา : ไม่ใช่ ไม่ใช่ เข้าใจผิด เดี๋ยว ๆ ไอ้นี่อันตรายมากนะ! ดีเหมือนกันนะ มันจะได้เกิดประโยชน์ต่อคนอื่น
การทำใจให้ว่าง ๆ ทำจิตให้ว่าง ๆ คือการไม่คิดไม่ปรุงแต่งอะไรเลย อันนี้มันจะเป็นโรคเอ๋อ! ทำให้สติปัญญาที่เรามีอยู่ เฉลียวฉลาดปราดเปรียว มันค่อย ๆ หายไป
ตอนนี้ตอนเราอยู่คนเดียวไม่กระทบทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ห้าประตูภายนอกเนี่ย คนอื่นเค้าหลับหมดแล้ว เราเลิกจากการทำงานกลางวันแล้ว เราก็เดิน ... เดินไปเดินมา ๆ สังเกตอยู่เงียบ ๆ
**ไม่ใช่ว่าไม่คิดไม่ปรุงแต่งอะไรเลย**
สังเกตเห็นว่า ... ความคิดความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ มันเกิดที่ไหนล่ะ ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ทุกปัจจุบันขณะ มันเกิดบนท้องฟ้า หรือเกิดใต้ดิน หรือมันเกิดที่ไหน หนูว่าเกิดที่ไหน …?
โยม : เกิดที่ใจ
หลวงตา : เออ มันเกิดที่ใจ แล้วก็ดับไปที่ใจ หนูก็สังเกตให้ดี ๆ ว่าใจมันอยู่ที่ไหนล่ะ
ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ก่อนมีมันก็ไม่มี มีแล้วมันก็ดับกลับคืนสู่ความไม่มี
ก่อนมีมันก็ไม่มี มีแล้วก็ดับกลับคืนไปสู่ความไม่มี
ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ทั้งที่เป็นกุศลอกุศล มันเกิดที่ไหนล่ะ ?
มันเกิดที่ใจและดับไปที่ใจ
แม้แต่ "กิเลส" ก็เกิดที่ใจและดับไปที่ใจ
หนูหาใจให้พบซิว่า "ใจ" ที่เป็นที่เกิดที่ดับของ "จิตตสังขาร" ซึ่งเป็นความรู้สึกนึกคิดอารมณ์
ใจมันอยู่ที่ไหน มันมีสภาพเป็นยังไง หนูหามันเจอมั้ยล่ะ?
โยม : คือตอนนี้มันเหมือนแบบ มัน... มันเคว้งคว้างไปหมด มันยังหาไม่เจอน่ะค่ะ
หลวงตา : หนูก็สังเกตเอาเงียบๆ นะว่าเนี่ย ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์มันเกิดที่ไหน สังเกตให้เห็นนะ แล้วจะเข้าใจเอง โดยไม่ต้องถามใคร ว่า ... ทุกปัจจุบันขณะ ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ มันเกิดที่ไหนแล้วมันดับไปที่ไหน
โยม : คือตอนแรกหนูคิดว่า ถ้าสมมุติว่า ใจเราว่างอย่างนี้ มันก็คือ เหมือนแบบเราตัดสิ่งที่มารบกวน ความกระทบกระเทือนจิตใจเราไป ทำให้ใจเรามันสงบ แต่มันเป็นทางที่มันไม่ถูกต้อง ถูกมั้ยคะหลวงตา ...?
หลวงตา : ไม่ถูกต้อง! เท่ากับว่า ....
โยม : แม่บอกว่าเดี๋ยวจะเป็นโรคเอ๋อ
หลวงตา : เราจะเป็นโรคเอ๋อ และก็เราจะหลีกหนีความจริง
เราจะต้องเห็นอยู่เงียบๆ แล้วเราเห็นโดยที่เราไม่ไปกระทบกับผัสสะทางตา หู จมูก ลิ้น กาย แล้วก็เดินไปเดินมาสังเกตอยู่เงียบ ๆ
ดูซิว่า ....ความรู้สึกนึกคิดอารมณ์ทุกปัจจุบันขณะ หรือ "จิตตสังขาร" ทุกปัจจุบันขณะนี้ ก่อนเกิดมันก็ไม่มี มีแล้วก็ดับกลับคืนไปสู่ความไม่มี ก่อนมีขึ้นมามันก็ไม่มี มีแล้วก็ดับกลับคืนไปสู่ความไม่มี
มันก็เกิดที่ไหน ...? มันก็เกิดที่ใจและดับไปที่ใจมัน
ไม่ได้ไปเกิดที่ท้องฟ้า ดับไปที่ท้องฟ้าหรอก มันไม่ได้เกิดที่ใต้ดิน ดับไปที่ใต้ดิน
กิเลส ความทุกข์ ความสุข ความโศก ความเศร้า ความเสียใจ ความไม่สบายใจ หรือว่าความผ่องใส ความเศร้าหมอง ความคิด ความปรุงแต่งต่าง ๆ "มันก็เกิดที่ใจ ดับที่ใจ"
เห็นที่เกิดน่ะ เฝ้าสังเกตเห็นที่เกิดที่ดับของมันอย่างเดียวจริง ๆ อย่าไปไล่ตามความคิด หรือ จิตที่ปรุงแต่งนะ ไล่ไม่ทันหรอก เพราะมันเร็วมาก
** อย่าไปไล่ดับความคิด ให้เห็นที่เกิดที่ดับของมัน ** ว่ามันเกิดมันดับที่ไหน
เราจะรู้ว่าที่เกิดที่ดับของมัน มันมาจากความว่างเปล่า มันว่างเปล่าจริง ๆ เหมือนดั่งท้องฟ้า เหมือนดั่งอวกาศ
มันไม่มีตัวตนไม่มีรูปร่าง ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ตั้ง ไม่มีสัญลักษณ์ใด ๆ เลย มันเป็นความว่าง
ไม่ใช่ว่าเราไปทำให้ความคิดทั้งหมดมันว่าง แต่เราเห็นว่าความคิดทั้งหมดเนี่ย มันเกิดมาจากความว่าง และดับหายไปในความว่าง
นั่นแหละ...แล้วเราก็จะพ้นจากทุกข์ได้
ใจมันก็จะเป็นความว่างเปล่า
ส่วนความคิดทั้งหมดก็จะถูกปล่อยวางไป
แต่ไม่ใช่ว่าเราเข้าใจผิด เราไปทำให้มันไม่คิด ทำให้ใจว่าง ๆ
อันนี้มันจะสร้างเอา มันจะปรุงแต่งสร้างมโนภาพ
แล้วก็ เป็นคนเอ๋อเอา !!
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190221A-2 รู้ธรรมชาติ
21 กุมภาพันธ์ 2562
ฟังจากยูทูป :
https://www.youtube.com/watch?v=O-PaPFMt-vc