เราเคยพบความว่างที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ มันว่างไปหมดเลย แต่เราพลาดคือเราไม่เห็นผู้ที่ไปรู้ความว่าง คือเราไปยึดเอา “ผู้ที่ไปรู้ความว่าง” เป็นตัวเรา เราเลยไม่ไปเป็น “ใจที่ว่าง” แต่กลายไปเป็นไอ้ตัวรู้ตัวเราที่มันว่าง
เปรียบเหมือนเราคือใจที่เป็นธาตุรู้ที่ว่างเปล่า เราแท้ๆ คือธรรมแท้ที่เป็นจิตดั้งเดิม คือใจที่ว่างเปล่า หรือธาตุรู้ที่ว่างเปล่า แต่เรากลับไปเอาผู้ที่มารู้ใจที่ว่างเปล่า หรือ ผู้รู้ที่ปรุงแต่งได้มาเป็นเรา
เช่น ปรุงแต่งว่า... เอ๊ะ...ทำไมใจมันจึงว่างเปล่าอย่างนี้ มันว่างแบบไม่มีขอบเขต ไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ ทำไมมันว่างเวิ้งว้างแบบนี้ มันว่างไปหมด ไม่เคยว่างอย่างนี้ ไม่เคยเห็นอย่างนี้มาก่อนเลย
เราไปเอาผู้รู้ตัวปลอมมาเป็นตัวจริง มาเป็นตัวเรา เพราะว่าผู้ที่ไปรู้ความว่าง ผู้ที่ไปรู้ความไม่มีอะไร มันปรุงแต่งได้ มันพูดได้ มันจึงเป็นผู้รู้ตัวปลอม เราสลับผิดตัว เอาตัวปลอมมาเป็นตัวจริง
จิตเดิมแท้เป็นธาตุรู้อันว่างเปล่า ไม่มีตัวตน ปล่อยวางผู้รู้ตัวปลอมหมด จึงจะเป็น “ใจ” เป็นธาตุรู้ที่ว่างเปล่า ที่ไม่ปรุงแต่ง
แม้แต่เป็นใจแท้ๆ ก็ไม่มีใครไปยึดมัน ให้เป็นธาตุรู้แท้ๆ พอไปเป็นสิ่งเดียวกับสิ่งนั้นแล้วจะไปยึดมันทำไม?
ไปเป็นสิ่งเดียวกับใจแท้ๆ เป็นธาตุรู้แท้ เป็นธรรมแท้ แล้วจะไปยึดมันทำไม?
เพราะว่าเราแท้ๆ คือใจแท้ ๆ หรือธรรมแท้ๆ นั่นแหละ แล้วเราจะไปยึดเราทำไม?
ขณะที่ “รู้” ขึ้นมาโดยที่ไม่มีเจตนา, ไม่มีความจงใจ, ไม่มีความตั้งใจ, ไม่มีความพยายามที่จะไป ไปดู ไปรู้ ไปละ ไปปล่อย ไปวาง ไปทำความเข้าใจอะไร
ขณะนั้นเป็นธาตุรู้แท้ๆ ที่ไม่มีตัวเราปนอยู่ในธาตุรู้
อันนั้นมันเป็น "ธรรมแท้"
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
190119A-4 อยู่กับธรรม กินกับธรรม ตายกับธรรม
19 มกราคม 2562
ฟังจากยูทูป :
https://youtu.be/N87jvFoEfpI
ฟังจากระบบซาวด์คลาวด์ :
https://soundcloud.com/luangtanarongsak/190119a-4
ดาวน์โหลด (คอมพิวเตอร์) :
http://bit.ly/2B7mclp