อาการของจิตทุกปัจจุบันขณะ เหมือนคนตีกัน เราเห็นเค้าตีกัน อาการของจิตในปัจจุบันขณะ เราไม่เข้าไปยุ่งกับเขา ถ้าเราไม่เข้าไปยุ่งกับเขา ก็ไม่โดนลูกหลง ทำให้เราต้องเป็นทุกข์
แต่สังเกตให้ดี ๆ นะ มันมี ... “ตัวเรา” ที่ไม่ไปยุ่งกับเขา เดี๋ยวจะทำให้ ... เราเป็นทุกข์ มันมีการ “รักษาตัวเรา” ไว้ “รักษาใจของเรา” ไว้ ไม่ให้ ... ใจของเรา ... เป็นทุกข์ มันเลยมี ... การดิ้นรนแสวงหา อยากที่จะออกจากทุกข์ จนเป็นทุกข์
ถึงเราจะเอาตัวเราออกจากงาน ออกไปแสวงหา ไปปฏิบัติธรรม ก็ไม่พ้นทุกข์ มันมีแต่ความทุกข์ มีแต่ความทุกข์ เพราะอยากพ้นทุกข์นี่แหละ
แต่ตั้งใจปฏิบัติแสวงหาความพ้นทุกข์ก็ดีแล้วล่ะ ประเสริฐแล้ว อนุโมทนาด้วย แต่ให้พิจารณาให้ดี มันเป็นแต่ความคิด
แต่ครั้นออกไปอยู่วัดจริง ๆ ออกไปอยู่สถานที่ปฏิบัติธรรมจริง ๆ มันก็ ... ไม่ได้พ้นทุกข์ ... อย่างที่เราคิด ไปหาวิธีปฏิบัติแทบตาย ปฏิบัติยังไงมันก็ไม่พ้นทุกข์ มันเหมือน เสี้ยนแทงใจเรา อยู่ใกล้ ๆ ใจเรานี่แหละ เรามองข้ามมันไป
จง “ปล่อยวางความอยาก” ในปัจจุบัน
ปล่อยวางความอยากพ้นทุกข์
ไม่มีผู้ก้าวหน้า ไม่มีผู้ถอยหลัง ไม่มีผู้หยุดอยู่
ความทุกข์ก็ไม่มี ใจมันก็สงบ
ความดิ้นรน มันไม่สงบ
ความไม่สงบนั่นแหละ มันเป็นความทุกข์
ความสุขมันอยู่ที่ตรงความสงบ สงบไม่ได้หมายถึงว่า เราไปทำให้อาการของใจมันสงบ แต่เพราะ ใจมันสงบจากความดิ้นรนทะยานอยากแล้ว ความทุกข์ทั้งมวลก็ดับลง เพราะตัวสมุทัยที่เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบสิ้น มันก็อยู่ที่ความอยาก อยู่ที่ “ตัณหา” นี่แหละ
เมื่อตัณหาดับลง ใจก็เลยสงบ
ใจสงบเพราะอะไร ก็เพราะว่า... ความดิ้นรนทะยานอยากในใจมันดับลง ดับความอยากที่จะพ้นทุกข์ ดับความปรารถนาที่จะพ้นทุกข์
ใจหยุดดิ้นรนเท่านั้นแหละ ความทุกข์ทั้งมวลก็ดับลงเลย
ไม่มีตัวตนของ “ผู้พ้นทุกข์” ที่แท้จริง
และ ไม่มีตัวตนของ “ผู้ทุกข์” ที่แท้จริง
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากวีดีโอ “อยากพ้นทุกข์ยิ่งทุกข์”
~~~~~~~~~~~~~~~~