ธรรมะ คือ ประสบการณ์ตรง
การที่เราฟังแล้วก็มาสนทนาสอบถามกัน เข้าใจ รู้แจ้งถึงใจ
อันนี้เป็นขั้นที่ รู้ เห็น เข้าใจ จิตใจของตนเอง
เรียกว่ารู้เห็นเข้าใจจิตใจของตัวเองว่าอะไรเป็นอะไร
ตามธรรมคำสอน เรียกว่า "รู้ธรรมเห็นธรรม"
แต่อีกขั้นหนึ่ง คือ "ใจเป็นธรรม"
เป็นธรรมก็หมายถึงว่าประสบการณ์ตรงตอนที่ใช้ชีวิตประจำวันทุกขณะปัจจุบัน ผ่านความหลงยึดถือ
ผ่านความหลงมีตัวตนไปยึดถือสิ่งใดให้เป็นทุกข์มั้ย
ธรรมชาติมันย่อมเปลี่ยนแปลงไป
ย่อมไม่สามารถจะถูกใจเราได้ตลอดเวลา
ย่อมมีทั้งความสูญเสีย ย่อมมีทั้งความพลัดพราก
ย่อมมีทั้งความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ
ย่อมประสบกับความคับแค้น
สามารถผ่านมันไปได้มั้ยล่ะ
มีตัวตนไปยึดถือมันให้เป็นทุกข์มั้ยล่ะ
หรือสามารถที่จะผ่านมันไปได้
โดยไม่มีตัวตนไปยึดถือมันให้เป็นทุกข์
*** การที่เราผ่านอุปสรรคไปได้แต่ละครั้ง
นั่นแน่ะ มันจะเป็นธรรมที่แท้จริง ที่ใจเรา ***
แต่ถ้าเรายังเข้าใจอยู่เพียงแค่เข้าใจด้วยใจ
แต่เอาเข้าจริงพ่ายแพ้ทุกยก
ทุกปัจจุบันพ่ายแพ้ทุกอย่าง ยึดทุกอย่าง ทุกข์ทุกอย่าง
ยึดทุกขณะ ทุกข์ทุกขณะ อย่างนี้ไม่ได้เป็นธรรม
เป็นธรรมแท้ ก็คือ ของแท้จริงที่ใจ ว่าของจริงเกิดขึ้นแล้ว
ทุกข์เกิดขึ้นแล้ว เหตุแห่งทุกข์ก็เกิดขึ้นแล้ว
ดับเหตุแห่งทุกข์ในปัจจุบันขณะนั้นได้
และความทุกข์ก็เข้าไม่ถึงใจนั้นได้
อันนี้แน่ะ คือ ธรรมแท้
ธรรมแท้ คือ ประสบการณ์ตรงที่ผ่านความทุกข์ทั้งมวลไปได้
แล้วก็จะนำมาบอกเล่า นำมาสอนคนอื่นได้
นั่นแหละ คือ ธรรมแท้
ไม่ใช่เกิดจากการอ่านจากตำราการเล่าเรียนมา
แล้วก็จำมาสอนกัน ... ไม่ใช่ !
ถ้าลำพังเพียงการอ่านการเล่าเรียนจากตำรา
แต่ผ่านความทุกข์ยากลำบากในใจที่แท้จริง
ในชีวิตประจำวันไม่ได้
ยังพ่ายแพ้ ยังไม่เป็นธรรม
ยังเป็นโลกอยู่
ยังไม่ได้พ้นโลก
............
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
ที่มาส่วนหนึ่งจากไฟล์เสียง
190706A1-3.2 อย่าหลงเป็นเงาในกระจก (ตอนที่ 2)