การปฏิบัติธรรมในอริยมรรค อริยผล เหมือนกับการขึ้นต้นตาลหรือต้นมะพร้าวไม่มีกิ่งให้หยุดพัก จนกว่าจะถึงยอด คือ "นิพพาน"
ถ้ายังไม่ถึงนิพพานอยู่ตราบใด ทางด้านจิตใจ ไม่อาจจะประมาทได้เลย
ถ้าประมาท ไม่สำรวมอินทรีย์ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่สังเกตพิจารณาอยู่ในกรรมฐานของตนเอง ปล่อยให้คิดปรุงแต่งเพลินใจไป แม้เพียงน้อยหนึ่ง นิดหนึ่ง ปรมาณูหนึ่ง อาจพลาดพลั้งตกถึงโคนต้นในขณะจิตเดียวได้ ต้องเสียเวลาปีนกลับขึ้นไปใหม่ ไม่คุ้มค่ากับการที่ได้พากเพียรมา
หากการปฏิบัติ มันตื้อๆ ตันๆ อย่างน้อยต้องกอดต้นไว้ให้แน่น อย่าปล่อยให้ตกลงมาได้
รักษาความดี คือ ใจเป็นธรรม เบิกบาน
เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ
เงียบ สงบ สงัด
มีเมตตา รู้คุณของพระพุทธ พระธรรม พระอริสงฆ์ พ่อแม่ครูอาจารย์ และผู้มีพระคุณ
เพียรสังเกตพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงของกายและจิตอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
*****ไม่หลงเพลินใจไปแช่พักนิ่งไว้ที่ความว่าง โล่ง โปร่ง เบา สบาย
หากติดขัด ตื้อๆ ตันๆ จริงๆ ก็ให้น้อมใจระลึกถึงคุณของพระพุทธ คุณของพระธรรม คุณของพระอริยสงฆ์ คุณของพ่อแม่ครูอาจารย์ที่เคารพนับถือ ให้ช่วยเหลือดลใจให้เกิดสติ สมาธิ ปัญญาเป็นสัมมาทิฏฐิ ให้รู้แจ้งในธรรม ใจเป็นธรรมอันบริสุทธิ์ ด้วยเทอญ
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
12 มีนาคม 2562
-----------------------
หลวงตา : แผ่เมตตาสม่ำเสมอ ๆ ...
ติดขัดอะไร ให้นึกถึงความเมตตา พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระคุณพ่อแม่ครูอาจารย์ อันไม่มีที่สุดไม่มีประมาณ และหลวงตา นะ
แล้วจะรู้แจ้งที่ใจเอง
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากปุจฉาวิสัชนา
18 มีนาคม 2562