ใจหรือผู้รู้ไม่เคยปรากฏอะไรเลย มีแต่สิ่งที่ถูกรู้ มีแต่สังขาร มีแต่ธรรมารมณ์ เท่านั้นที่ปรากฏ... เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป
แต่ผู้รู้ไม่เคยปรากฏตัวตนเลย ไม่เคยปรากฏรูปร่าง ไม่เคยปรากฏที่ตั้ง ที่อยู่ ไม่เคยปรากฏรูปพรรณสัณฐานใด ๆ มีแต่สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาในใจ แล้วสิ่งนั้นก็ดับไปเป็นธรรมดา
พระโสดาบันเห็นว่า... สังขารเป็นเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา... เห็นอย่างนี้ รู้สึกอย่างนี้ จากใจของตัวเอง 100% ไม่ได้เกิดจากความจำ แต่เห็นจริง รู้จริงจากใจของเจ้าของ
พระอรหันต์เห็นว่า... นอกจากสิ่งที่เกิดดับแล้ว รู้แจ้งแก่ใจว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่เกิดไม่ดับ สิ่งนั้นเป็นอมตะตลอดกาล และพ้นจากทุกข์แล้ว
คือเห็นว่า... พ้นจากสังขารทั้งหมดแล้ว มีสิ่งที่ไม่เกิดไม่ดับ ไม่มีตัวตน ไม่มีอะไรปรากฏเลย เป็นอมตะตลอดกาล และสิ่งนั้นพ้นจากทุกข์
พระโสดาบันกับพระอรหันต์ต่างกันตรงนี้
ต้องเลยความจำไป ให้เป็นความจริง... “รู้จริง - เห็นจริง - เป็นจริง”
เพราะผู้จำได้ ผู้พูดได้ จำได้มาก พูดได้เก่ง ต่อไปจะมีมาก
ผู้ปฏิบัติได้ รู้จริง เห็นจริง เป็นจริง มีน้อย
หลวงตาณรงค์ศักดิ์ ขีณาลโย
โอวาทธรรมจากไฟล์เสียง
180602B-6 ความจริงกับความจำ
2 มิถุนายน 2561
ฟังจากยูทูป :
https://youtu.be/oPJjXzSFB8c